สวัสดีครับเพื่อนๆ สายเกมมิ่งที่รักในความสมบูรณ์แบบ! เวลา ROG Phone รุ่นใหม่ออกมา สิ่งที่ตามมาติดๆ คือคำถามโลกแตกที่ว่า: "จะเลือกรุ่นไหนดีระหว่างรุ่น Standard, Pro, หรือ Ultimate?"

แน่นอนว่าทุกรุ่นมาพร้อมชิปเซ็ตตัวเดียวกันที่แรงแบบจัดเต็ม แต่พอเห็นราคาของรุ่น 'Pro' หรือโดยเฉพาะรุ่น 'Ultimate' ที่กระโดดไปไกลกว่ารุ่นเริ่มต้นเป็นหมื่นบาท หลายคนก็ต้องถามตัวเองว่า: "เราจ่ายเพิ่มไปทำไม? มันมีอะไรที่ 'สุด' กว่าจริงๆ หรือแค่เพิ่ม 2GB ของ RAM?"

วันนี้เราจะมาคุยกันแบบสบายๆ เจาะลึกถึงความแตกต่างที่แท้จริงระหว่างรุ่นย่อยต่างๆ ของ ROG Phone ในแต่ละเจเนอเรชัน ว่าสิ่งที่ ROG เติมเข้ามานั้นมันคือ "ความจำเป็นในการเล่นเกม" หรือเป็นเพียง "ของเล่นสุดล้ำสำหรับฮาร์ดคอร์เกมเมอร์" ที่ต้องการสถานะสูงสุดในสมรภูมิสมาร์ทโฟนกันแน่!


1. ความแตกต่างที่จับต้องได้: RAM, ROM, และราคาสูงสุด!

ความแตกต่างพื้นฐานที่สุดระหว่างรุ่นย่อยคือตัวเลขสเปกภายใน และแน่นอน... ตัวเลขราคา!

รุ่นย่อยRAM/ROM (โดยทั่วไป)สิ่งที่ได้รับเพิ่มสถานะในตลาด
Standard (รุ่นเริ่มต้น)12GB/256GB หรือ 16GB/512GBได้ชิปเซ็ตและฟีเจอร์เกมมิ่งหลักครบถ้วนThe Workhorse: คุ้มค่าที่สุดสำหรับเกมเมอร์ทั่วไป
Pro16GB/512GB หรือ 18GB/1TBได้ความจุและ RAM สูงสุดในตลาดทั่วไปThe Power User: สำหรับคนที่ต้องการความเร็วและพื้นที่เก็บข้อมูลแบบไม่กั๊ก
Ultimate18GB หรือ 24GB RAM, 1TB ROMฟีเจอร์พิเศษด้านการระบายความร้อน/ดีไซน์The Collector: สุดยอดความสมบูรณ์แบบและการโชว์ศักดิ์ศรี

บทเรียนจากตัวเลข:

ในหลายๆ เจเนอเรชัน (เช่น ROG Phone 5 หรือ 7) รุ่น Ultimate มักจะมาพร้อมกับ RAM 18GB หรือ 24GB และ ROM 1TB ซึ่งเป็นตัวเลขที่แทบไม่มีมือถือ Android รุ่นไหนกล้าให้มา! แม้ว่าในการเล่นเกมจริง 12GB ก็เพียงพอแล้ว แต่การจ่ายเพิ่มเพื่อได้ 24GB คือการรับประกันว่าคุณจะเปิดเกม AAA สลับกับแอปโซเชียลกี่สิบแอปก็ได้โดยที่ไม่มีคำว่าหน่วง

คำถามคือ: คุณจำเป็นต้องมี 1TB ในมือถือจริงไหม? สำหรับเกมเมอร์สายติดตั้งเกมใหญ่ๆ นับสิบเกม หรือสายบันทึกวิดีโอ 8K/4K ตลอดเวลา... มันก็อาจจะจำเป็น!


2. ความแตกต่างที่ไม่ใช่แค่ตัวเลข: ฟีเจอร์ 'Ultimate' ที่สุดแสนเฉพาะตัว

ส่วนที่ทำให้รุ่น Ultimate แตกต่างอย่างแท้จริง และเป็นเหตุผลให้ราคาพุ่งสูงลิ่ว คือฟีเจอร์ภายนอกและดีไซน์ที่ไม่มีในรุ่นอื่นๆ

(ตำนาน) AeroActive Portal: รูระบายอากาศสุดล้ำ

นี่คือฟีเจอร์ Signature ของรุ่น Ultimate ที่โด่งดังที่สุดในยุค ROG Phone 5, 6 และ 7 Ultimate!

  • มันคืออะไร?: เป็น ช่องระบายอากาศแบบมีกลไก (Motorized Vent) ที่จะเปิดออกอัตโนมัติเมื่อติดตั้งพัดลมเสริม AeroActive Cooler

  • ประโยชน์: ช่องนี้จะนำอากาศเย็นจากพัดลม เป่าเข้าสู่ชิปเซ็ตโดยตรง เพื่อระบายความร้อนได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดเหนือกว่ารุ่น Pro ทั่วไป

  • สถานะ: เป็นฟีเจอร์ที่ทำให้รุ่น Ultimate ดูเป็น "เครื่องจักรกล" มากที่สุด การได้เห็นช่องเปิด-ปิดแบบนี้คือความภูมิใจอย่างหนึ่ง แต่...

    • ข้อเสีย: ทำให้เครื่องไม่สามารถกันน้ำได้ดีเท่ารุ่นทั่วไป และตัวเครื่องมีขนาดหนาขึ้น

  • ข้อเสีย: ทำให้เครื่องไม่สามารถกันน้ำได้ดีเท่ารุ่นทั่วไป และตัวเครื่องมีขนาดหนาขึ้น

ROG Vision / AniMe Vision ที่อัปเกรด

รุ่นท็อปมักมาพร้อมกับหน้าจอแสดงผลด้านหลังที่ดีกว่า

  • ROG Vision (รุ่นเก่า): รุ่น Pro อาจมีเพียงโลโก้ไฟ RGB ธรรมดา แต่รุ่น Ultimate มักจะมาพร้อมกับ หน้าจอ Mini-LED (หรือ PMOLED) ที่สามารถแสดงแอนิเมชัน ข้อความ หรือไอคอนต่างๆ ได้อย่างละเอียด

  • สีพิเศษ: รุ่น Ultimate มักจะมาใน สีพิเศษ (เช่น Storm White หรือ Phantom Black ที่มีลวดลายไม่เหมือนใคร) ที่บ่งบอกความเป็นรุ่นท็อปชัดเจน

ของแถมในกล่องที่จัดเต็ม

ในบางเจเนอเรชัน (เช่น ROG Phone 5 Ultimate) ตัวเครื่องรุ่น Ultimate มักจะ แถม พัดลมระบายความร้อน AeroActive Cooler มาให้ในกล่องเลย โดยที่รุ่น Pro หรือ Standard ต้องซื้อแยก! มูลค่าของพัดลมตัวนี้ก็สูงพอสมควร ทำให้ช่องว่างของราคาระหว่างรุ่นแคบลงเล็กน้อย


3. ยุคใหม่แห่งความพรีเมียม: เมื่อ 'Pro' คือ 'Ultimate' เดิม (ROG Phone 8 Series)

เทรนด์ล่าสุดใน ROG Phone 8 Series ได้มีการปรับกลยุทธ์ของรุ่นย่อยครั้งใหญ่ ซึ่งทำให้เกิดความสับสนเล็กน้อย

  • การยกเลิก 'Ultimate': ROG Phone 8 ยกเลิกชื่อ 'Ultimate' และใช้ชื่อ 'ROG Phone 8 Pro' เป็นรุ่นท็อป

  • สิ่งที่รุ่น Pro ได้รับ (จาก Ultimate เดิม):

    • AniMe Vision/Mini-LED: รุ่น Pro ได้รับหน้าจอแสดงผลด้านหลังที่เคยเป็นฟีเจอร์เด่นของ Ultimate ไปครอง
    • RAM/ROM สูงสุด: รุ่น Pro มาพร้อมตัวเลือก RAM 24GB และ ROM 1TB ซึ่งเป็นสเปกเดียวกับ Ultimate เดิม
    • ดีไซน์ที่บางเบาและ IP68: รุ่น Pro ได้รับดีไซน์ใหม่ที่บางเบาลงอย่างมากและมาตรฐานกันน้ำ IP68 โดย ตัด AeroActive Portal ออกไป เพื่อเน้นความเป็นมือถือเรือธงที่ใช้งานได้ในชีวิตประจำวันมากขึ้น

  • AniMe Vision/Mini-LED: รุ่น Pro ได้รับหน้าจอแสดงผลด้านหลังที่เคยเป็นฟีเจอร์เด่นของ Ultimate ไปครอง

  • RAM/ROM สูงสุด: รุ่น Pro มาพร้อมตัวเลือก RAM 24GB และ ROM 1TB ซึ่งเป็นสเปกเดียวกับ Ultimate เดิม

  • ดีไซน์ที่บางเบาและ IP68: รุ่น Pro ได้รับดีไซน์ใหม่ที่บางเบาลงอย่างมากและมาตรฐานกันน้ำ IP68 โดย ตัด AeroActive Portal ออกไป เพื่อเน้นความเป็นมือถือเรือธงที่ใช้งานได้ในชีวิตประจำวันมากขึ้น

สรุปยุค 8: ใน ROG Phone 8 Series รุ่น 'Pro' ก็คือ 'Ultimate' ในด้านสเปกและความพรีเมียม แต่เน้นการใช้งานแบบพกพามากขึ้น


สรุป: คุ้มค่าที่จะจ่ายเพิ่มหรือไม่?

คำถามสุดท้ายคือ: เราควรจ่ายเพิ่มเพื่อซื้อรุ่น Pro หรือ Ultimate หรือไม่?

  • ถ้าคุณคือ 'เกมเมอร์ทั่วไป' (Standard คือคำตอบ): หากคุณต้องการแค่เฟรมเรตสูงสุดในการเล่นเกม AAA เป็นหลัก 12GB RAM และ 256GB ROM (ในรุ่น Standard) ก็เพียงพอต่อความต้องการอย่างเหลือเฟือ พลังประมวลผลเหมือนกันทุกประการ!

  • ถ้าคุณคือ 'Power User' (Pro คือคำตอบ): หากคุณต้องการพื้นที่เก็บเกมและไฟล์วิดีโอแบบไม่จำกัด และต้องการการันตีว่าเครื่องจะไม่มีทางหน่วงเด็ดขาด (เปิดหลายแอป) รุ่น Pro ที่มี 1TB หรือ RAM 16GB ขึ้นไปคือตัวเลือกที่สมเหตุสมผล

  • ถ้าคุณคือ 'The Collector' (Ultimate คือคำตอบ): หากคุณเป็นคนที่ต้องการ "ที่สุดของที่สุด" ในทุกมิติ มีงบประมาณไม่จำกัด และต้องการฟีเจอร์ที่ไม่มีใครเหมือน (เช่น AeroActive Portal หรือ Mini-LED ที่สุดอลังการ) รุ่น Ultimate หรือ Pro ในยุคหลังๆ คือตัวเลือกที่ตอบโจทย์ "สถานะ" และความพึงพอใจทางจิตใจมากกว่า "ความจำเป็น" ในการเล่นเกมครับ!

ท้ายที่สุดแล้ว ทุกรุ่นของ ROG Phone คือสุดยอดมือถือเกมมิ่ง แต่รุ่น Pro และ Ultimate คือการเติมเต็มรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ และความรู้สึกของการเป็น "เจ้าของสิ่งที่ดีที่สุดในโลก" ให้กับเกมเมอร์อย่างเราครับ!

บทความล่าสุด

Infinix Smart 10 Plus: มือถือราคาหลักพันต้นๆ ที่ให้แบต 6,000mAh พร้อม Wi-Fi Dual Band

Infinix Smart 10 Plus: มือถือราคาหลักพันต้นๆ ที่ให้แบต 6,000mAh พร้อม Wi-Fi Dual Band

เปิดวาร์ปความคุ้มค่า! จัดอันดับ Infinix 5G รุ่นไหน “คุ้มค่าที่สุด” แห่งปี 2025

เปิดวาร์ปความคุ้มค่า! จัดอันดับ Infinix 5G รุ่นไหน “คุ้มค่าที่สุด” แห่งปี 2025

เทคโนโลยี AI ∞ บน Infinix HOT 50 Pro+: ฟีเจอร์ AI Creation มีอะไรน่าสนใจบ้าง?

เทคโนโลยี AI ∞ บน Infinix HOT 50 Pro+: ฟีเจอร์ AI Creation มีอะไรน่าสนใจบ้าง?

ลำโพงคู่ Sound by JBL: เสียงกระหึ่มเหนือระดับใน Infinix HOT 60 Pro+

ลำโพงคู่ Sound by JBL: เสียงกระหึ่มเหนือระดับใน Infinix HOT 60 Pro+

ระบบชาร์จ All-Round FastCharge 3.0 100W ใน Infinix NOTE 50 Pro+ 5G

ระบบชาร์จ All-Round FastCharge 3.0 100W ใน Infinix NOTE 50 Pro+ 5G

บทความจากแบนด์เดียวกัน

RAM 32GB ใน ROG Phone: เกินจำเป็น หรือ มาตรฐานใหม่?

RAM 32GB ใน ROG Phone: เกินจำเป็น หรือ มาตรฐานใหม่?

ROG Phone: ทำไม ASUS ทิ้ง 'Ultimate' ไปใช้ 'Pro Edition'? วิเคราะห์กลยุทธ์เบื้องหลัง

ROG Phone: ทำไม ASUS ทิ้ง 'Ultimate' ไปใช้ 'Pro Edition'? วิเคราะห์กลยุทธ์เบื้องหลัง

ROG Phone 9 Series: อนาคตของเกมมิ่งโฟน! คาดหวังนวัตกรรมอะไรจาก AI และฮาร์ดแวร์บ้าง?

ROG Phone 9 Series: อนาคตของเกมมิ่งโฟน! คาดหวังนวัตกรรมอะไรจาก AI และฮาร์ดแวร์บ้าง?

ซื้อ ROG Phone รุ่นไหนดี? ไกด์ไลน์เลือกให้ 'คุ้ม' และ 'ตรงใจ' ตามงบและการเล่น

ซื้อ ROG Phone รุ่นไหนดี? ไกด์ไลน์เลือกให้ 'คุ้ม' และ 'ตรงใจ' ตามงบและการเล่น

ROG Phone: เส้นทางสู่ 'ราชาเกมมิ่งโฟน' จากมือถือกล้ามใหญ่ สู่เรือธงที่เล่นเกมเก่งที่สุด

ROG Phone: เส้นทางสู่ 'ราชาเกมมิ่งโฟน' จากมือถือกล้ามใหญ่ สู่เรือธงที่เล่นเกมเก่งที่สุด

เลือกอ่านจากนักเขียนที่ใช่ในสไตล์ที่คุณชอบ !

เลือกอ่านจากนักเขียนที่ใช่ในสไตล์
ที่คุณชอบ !

เพราะทุกคนมีเรื่องเล่าที่น่าฟัง ลองอ่านดูสิ แล้วคุณจะเห็นวงการมือถือในมุมที่หลากหลายขึ้น

สำรวจบทความจากหลากหลายแบรนด์

เลือกอ่านจากนักเขียนที่ใช่ในสไตล์
ที่คุณชอบ !

ลองเปลี่ยนมุมมองดูบ้าง เพราะแต่ละบทความก็มี “รสชาติ” ที่แตกต่างอย่างน่าสนใจ

 " สเปค ราคา ข่าวเปิดตัว และโปรโมชั่นจากทุกแบรนด์ ครบจบในที่เดียว "

ลิงก์ด่วน

รีวิวมือถือ

ข่าวมือถือ

สเปคมือถือ

โปรโมชั่น / ราคา

เปรียบเทียบมือถือ

ติดตามเรา

Facebook

YouTube

Instagram

TikTok

อัปเดตเทรนด์มือถือใหม่ ๆ อ่านก่อนใคร

© 2025 mobile.co.th สงวนลิขสิทธิ์